Wednesday, June 30, 2010

ดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วลดความเสี่ยงโรคเกาต์

Photobucket

บีบีซีนิวส์ - นักวิจัยแคนาดาพบการดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วขึ้นไป อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บปวดทรมานจากโรคเกาต์

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบียในแคนาดา พบว่ากรดยูริกในเลือด ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคเกาต์ ลดลงในคนที่ดื่มกาแฟวันละหลายแก้ว แต่ไม่พบผลลัพธ์แบบเดียวกันในกลุ่มคนที่ดื่มชา บ่งชี้ว่าคาเฟอีนไม่ใช่ปัจจัยของเรื่องนี้

ปัจจุบัน คนอังกฤษเป็นโรคเกาต์กว่า 600,000 คน และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

อาการของโรคเกาต์คือ ปวดตามข้อ โดยเฉพาะข้อเท้า ซึ่งเกิดจากการที่กรดยูริกตกตะกอนและสะสมภายในข้อ

เชื่อกันว่า การดื่มเบียร์มากเกินไป หรือกินเนื้อแดงมากเกินไป น่าจะเป็นสาเหตุของโรคเกาต์

วิธีรับมือกับโรคนี้หลักๆ คือ กินยาแก้อักเสบ เปลี่ยนอาหาร และดื่มน้ำมากๆ แต่สำหรับกรณีที่มีอาการรุนแรง อาจต้องกินยาที่แรงขึ้นเพื่อลดระดับกรดยูริกในเลือด

งานวิจัยชิ้นล่าสุดที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสารอาร์ทริทิส แคร์ แอนด์ รีเสิร์ช ศึกษาจากพฤติกรรมการกินของกลุ่มตัวอย่างชาย-หญิง 14,000 คน ระหว่างปี 1988-1994 และนำข้อมูลที่ได้ไปเปรียบเทียบกับผลการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับกรดยูริก

นักวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วหรือมากกว่านั้น มีแนวโน้มมีกรดยูริกในเลือดต่ำกว่าคนที่ดื่มกาแฟวันละแก้วเดียวหรือแค่ 2-3 แก้ว

อย่างไรก็ดี ไม่พบผลลัพธ์แบบเดียวกันในคนที่ดื่มชา แต่พบในกลุ่มที่ดื่มกาแฟปลอดคาเฟอีน บ่งชี้ว่าคาเฟอีนอาจไม่ใช่ส่วนผสมสำคัญที่ทำให้เกิดผลลัพธ์นี้

นักวิจัยอธิบายว่า การดื่มกาแฟอาจทำให้ระดับอินซูลินในเลือดลดลง และมีความเกี่ยวโยงระหว่างการเพิ่มขึ้นของอินซูลินกับการเพิ่มขึ้นของกรด ยูริก

อนึ่ง ผลวิจัยนี้สนับสนุนรายงานอีกฉบับของนักวิจัยญี่ปุ่น ที่ศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็กกว่า

ดร.แอนดริว แบมจี ที่ปรึกษาโรคข้อ และประธานบริติช โซไซตี ออฟ รูมาโตโลจี แสดงความคิดเห็นว่า ไม่มีเหตุผลว่าเหตุใดการดื่มกาแฟจึงจะไม่ช่วยลดระดับกรดยูริกในเลือด แม้ว่านี่จะเป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่ให้ข้อสรุปแบบนี้ก็ตาม

กระนั้น ดร.แบมจีแย้งว่า ยังไม่แน่ว่าการที่กรดยูริกในเลือดเพิ่มขึ้นเป็นสาเหตุของโรคเกาต์ เนื่องจากบางคนมีกรดยูริกสูงตลอดชีวิต แต่ไม่เคยเป็นโรคเกาต์เลย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ

No comments:

Post a Comment